2/2/56

ดอยเวา ตลาดชายแดน



ดอยเวา ตลาดชายแดน ที่ไม่เคยเงียบเหงา

ภาพจาก www.tourismchiangrai.com
เมื่อลมหนาวโชยมา หลาย ๆ คนคงคิดถึงสถานที่ ที่เคยไปเที่ยวกันทางภาพเหนือ แต่ถ้าคุณเบื่อความแออัดของเมืองเชียงใหม่ที่ใกล้จะเป็น “กรุงเทพฯ สอง” ไปทุกที ลองเดินทางขึ้นเหนือมาอีกนิด คุณก็จะได้พบกับ”แม่สาย” ดินแดนเหนือสุดแดนสยามที่ไม่เคยรู้จักคำว่า “เงียบเหงา”

เมื่อมาถึงอำเภอแม่สาย หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงตลาดชายแดนที่ค้าขายสินค้านานาชนิด สาเหตุที่ตลาดชายแดนแห่งนี้มีสินค้าจากนานาประเทศ ก็เพราะว่าเมืองแม่สายเป็นเมืองหนึ่งในเส้นทางการค้าชายแดนไทย-พม่า-จีน สินค้าจากเมืองไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศพม่าผ่านเมืองท่าขี้เหล็ก เชียงตุง ไปจนถึงประเทศจีนที่สิบสองปันนา หรือจะแยกเข้าตอนกลางของพม่าที่เมืองตองยีก็ได้ และสินค้าจากต่างประเทศก็เดินทางกลับมายังเมืองไทยที่เส้นทางนี้เช่นเดียวกัน โดยสินค้าอันหนลากหลายจะถูกนำมาวางขายรวมกันที่ “ตลาดดอยเวา”
ภาพจาก  www.chiangraidirectory.com
ตลาดดอยเวาเป็นตลาดชายแดนขนาดใหญ่ วางตัวอยู่ล้อมลอบดอยเวา ติดกับด่านพรมแดนไทยพม่า ที่ตลาดดอยเวาแห่งนี้ขาช็อปฯ จะได้พบกับสินค้าประเภทของใช้ในครัวเรือน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ขนม ผลไม้แห่ง ฯลฯ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากจีน โดยเฉพาะผ้าห่มผ้านวม ซึ่งมีราคาถูกแต่ห่มอุ่นสบายจนหลายคนติดใจ ส่วนของจากพม่าที่วางขายกันมักจะเป็นของพื้นเมืองเช่น สมุนไพรทาหน้า “ทานะคา” ผ้าทอพื้นเมือง และของที่ระลึกต่าง ๆ และหากคุณช็อปฝั่งไทยกันจนหนำใจ ยังสามารถเดินทางข้ามไปยังฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็กประเทศพม่าเพื่อช็อปปิ้งฯ ต่างประเทศได้อีกด้วย
ภาพจาก www.chiangraidirectory.com
นอกจากจะช็อปฯ เพลินแล้ว ดอยเวา ยังมี “พระธาตุดอยเวา” ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ไทยใหญ่ พม่า ที่นับถือศาสนาพุทธในพื้นที่ จากตัวตลาดดอยเวาคุณสามารถเดินหรือนังรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นไปสักการะพระธาตุก็ได้ ด้านบนยังมีรูปปั้นแมงป่องยักษ์ที่มาของชื่อดอยเวา (เวาภาษาเหนือ แปลว่าแมงป่อง) ถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพที่ระลึกที่พลาดไม่ได้ จากดอยเวาเมื่อมองลงมาเราจะมองเห็น”ลำน้ำสาย” ที่ขีดเส้นแบ่งประเทศไทยกับพม่า แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสะพานมิตรภาพที่เชื่อมโยงคนทั้งสองฝั่งให้เดินทางไปมาหาสู่กันตลอดเวลา ตลาดดอยเวาและเมืองแม่สายจึงเป็นเมืองที่คึกคักอย่างไม่มีวันหยุด
ใครหลายคนอาจจะกลัวคำว่าชายแดน แต่เชื่อเถอะว่า ตลาดดอยเวาแห่งนี้จะเปลี่ยนนิยามคำว่าชายแดนจากสนามรบเป็นสนามการค้า ที่เชื่อมโยงผู้คนโดยไม่สนใจสัญชาติ